สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ยังคงเป็นประเด็นที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) คาดการณ์ว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 91.4% ภายในสิ้นปี 2567 หรือคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 16.9 ล้านล้านบาท
ปัจจัยที่ขับเคลื่อนหนี้ครัวเรือนไทย
การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งถือว่าเติบโตเร็วที่สุดในรอบทศวรรษ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อสถานการณ์หนี้ครัวเรือน ได้แก่:
- เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่เต็มที่ ทำให้รายได้ของครัวเรือนไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ขณะที่ค่าครองชีพกลับสูงขึ้น ส่งผลให้ครัวเรือนต้องก่อหนี้เพื่อ維持การดำรงชีวิต
- ต้นทุนทางการเงินสูง: อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ภาระในการชำระหนี้เพิ่มขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดหนี้เสียในอนาคต
- พฤติกรรมการก่อหนี้: การขาดวินัยทางการเงินและการก่อหนี้เกินตัว เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนรุนแรงขึ้น
ผลกระทบและความเสี่ยงจากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง
หากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ดังนี้:
- ลดกำลังซื้อ เมื่อครัวเรือนมีภาระหนี้สินมากขึ้น จะส่งผลให้มีกำลังซื้อลดลง ซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม
- เสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หรือมีปัจจัยลบอื่น ๆ อาจทำให้ครัวเรือนจำนวนมากไม่สามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
- เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีหนี้สินมาก จะได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือนมากกว่าครัวเรือนที่มีรายได้สูง ซึ่งจะยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น
5 เคล็ดลับช่วยคนไทยปลดหนี้
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยนั้นถือว่าอยู่ระดับที่รุนแรงมาก เพื่อช่วยคนไทยรับมือกับสถานการณ์หนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันค่ะ ว่าวันนี้เรามีเคล็ดลับปลดหนี้อะไรมาแชร์ให้คุณบ้าง
1. ทำแผนการชำระหนี้อย่างเป็นระบบ
การวางแผนการปลดหนี้อย่างเป็นระบบเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ มีวิธีการหลักๆ สองวิธีที่ได้รับความนิยม ได้แก่
Snowball | เริ่มจากชำระหนี้ที่มีจำนวนน้อยที่สุดก่อน เมื่อชำระหนี้รายการแรกเสร็จ ให้โอนเงินงวดที่เคยใช้ชำระหนี้รายการแรกไปรวมกับงวดหนี้รายการถัดไป ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ |
Avalanche | เริ่มจากชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เมื่อชำระหนี้รายการแรกเสร็จ ก็ให้โอนเงินงวดไปรวมกับงวดหนี้รายการถัดไปที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงรองลงมา |
2. เจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้
อย่ากลัวที่จะเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ บางครั้งพวกเขาอาจพร้อมที่จะลดดอกเบี้ย ยกเว้นค่าปรับ หรือแม้แต่ลดจำนวนเงินต้นลงบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีสถานการณ์ทางการเงินที่ยากลำบาก การเจรจาด้วยความซื่อสัตย์และเปิดเผยอาจช่วยให้คุณได้รับเงื่อนไขที่ดีขึ้น
3. พิจารณารีไฟแนนซ์หนี้
การรีไฟแนนซ์หนี้เป็นวิธีการรวมหนี้หลายๆ รายการเข้าด้วยกัน โดยกู้เงินจากแหล่งใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ทำให้คุณมีงวดชำระรายเดือนเพียงงวดเดียว ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการหนี้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนรีไฟแนนซ์ เพราะอาจมีค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขอื่นๆ ที่แฝงมา
4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย
การปลดหนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการชำระหนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายด้วย ให้ความสำคัญกับการวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และพยายามเก็บออมเงินให้ได้มากที่สุด
5. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับหนี้สินได้ด้วยตนเอง อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น ที่ปรึกษาการเงินหรือองค์กรให้คำปรึกษาด้านหนี้สิน พวกเขาจะช่วยวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการปลดหนี้ที่เหมาะสมกับคุณ
ปัญหาหนี้สินไทยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การปลดหนี้อาจเป็นเรื่องยากแต่ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถ ด้วยการวางแผนอย่างเป็นระบบ การเจรจากับเจ้าหนี้ การพิจารณารีไฟแนนซ์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย และการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น เพียงเท่านี้คนไทยก็จะสามารถบริหารจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพและเริ่มต้นชีวิตที่ปลอดหนี้ได้ ซึ่งความทุ่มเทและความมุ่งมั่นเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการปลดหนี้