เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของเราทุกคน สินค้าและบริการมีราคาแพงขึ้น ทำให้เงินในประเป๋าเรามีค่าน้อยลง อย่างไรก็ตาม เราสามารถวางแผนรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ เพื่อให้ผลกระทบต่อการเงินของเราน้อยที่สุด
ทำความเข้าใจกับเงินเฟ้อ
ความหมายของเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ (Inflation) หมายถึงภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อำนาจซื้อของเงินลดลง นั่นหมายความว่า เงินจำนวนเดียวกันจะซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง
สาเหตุของเงินเฟ้อ
สาเหตุหลักของเงินเฟ้อ ได้แก่
- อุปสงค์สูงเกินกว่าอุปทาน ทำให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้น
- ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ค่าแรง ค่าวัตถุดิบ หรือค่าพลังงาน ส่งผลให้ต้องปรับราคาขายสูงขึ้น
- นโยบายการเงินผ่อนคลายมากเกินไป ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากเกินความต้องการ
ผลกระทบของเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อเราหลายด้าน เช่น
- ค่าครองชีพสูงขึ้น: ราคาสินค้าและบริการที่จำเป็น เช่น อาหาร พลังงาน และค่าเช่าบ้าน เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราต้องใช้เงินมากขึ้นในการดำรงชีวิต
- เงินออมมีค่าน้อยลง: เงินที่เราเก็บออมไว้มีอำนาจซื้อลดลง เนื่องจากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น
- ภาระหนี้เพิ่มขึ้น: หากเรามีหนี้สิน เช่น หนี้บ้าน หรือหนี้บัตรเครดิต ภาระในการผ่อนชำระหนี้จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อทำให้เงินที่เราใช้ในการผ่อนหนี้มีค่าน้อยลง
วางแผนรับมือกับเงินเฟ้อ
ปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย
เมื่อค่าครองชีพสูงขึ้น การปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ได้แก่
- จัดลำดับความสำคัญของรายจ่าย แยกแยะรายจ่ายจำเป็นและไม่จำเป็น
- หาทางเลือกที่ประหยัดกว่า เช่น ซื้อสินค้าราคาประหยัด หรือใช้บริการราคาถูกกว่า
- ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย เช่น การท่องเที่ยว ภัตตาคารราคาแพง
ลงทุนในสินทรัพย์ที่รักษามูลค่า
การลงทุนในสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ดีในช่วงเงินเฟ้อ เช่น
- ทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่รักษามูลค่าได้ดีในช่วงเงินเฟ้อ
- อสังหาริมทรัพย์ มูลค่ามักปรับตัวสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ
- หุ้นบริษัทที่มีรายได้ดี สามารถปรับราคาขายสินค้าหรือบริการได้ตามเงินเฟ้อ
หาแหล่งรายได้เสริม
การมีรายได้เพิ่มเติมจะช่วยรักษาอำนาจซื้อในช่วงเงินเฟ้อ เช่น
- ทำงานพิเศษนอกเวลาราชการ
- ประกอบอาชีพเสริม เช่น ขายสินค้าออนไลน์ รับงานฟรีแลนซ์
- ลงทุนในธุรกิจเล็กๆ เช่น ร้านค้าออนไลน์ ธุรกิจให้บริการ
ถึงแม้ปัญหาเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถวางแผนรับมือได้ โดยการวางแผนการเงิน การลดค่าใช้จ่าย การเพิ่มรายได้ การลงทุน และการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบต่อการเงินของเราให้มากที่สุด ให้อำนาจซื้อคุณยังคงอยู่ แม้ในยามค่าครองชีพสูงก็ตาม