Gartner เผย 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญปี 2024 ที่ธุรกิจต้องจับตามอง ที่องค์กร ธุรกิจจะต้องรู้ มีอะไรใหม่ มีอะไรน่าสนใจเราจะพาไปดูแบบเจาะลึก ปี 2024 นี้ มีเทรนด์เทคโนโลยีอะไรบ้างที่จะพลิกโฉมวงการธุรกิจ องค์กรต่างๆ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม AI ขั้นสูง เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่พัฒนาขึ้น หรือการใช้คลาวด์แบบใหม่ๆ ทุกเรื่องสำคัญ
เรามาเปิดมุมมองใหม่ๆ และแนวคิดที่น่าสนใจของแต่ละเทรนด์ ที่ Gartner วิเคราะห์มาให้แล้วว่าเป็นเทรนด์ที่จะมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์องค์กรในอนาคต พร้อมคำแนะนำในการนำไปปรับใช้ เพื่อให้คุณสามารถเตรียมความพร้อม และไม่พลาดทุกโอกาสที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งนี้
ก่อนจะเข้าเรื่องเรามาทำความรู้จักกับ Gartner คร่าวๆ กันก่อน
Gartner, Inc. เป็นบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองสแตมฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีและแบ่งปันงานวิจัยนี้ทั้งผ่านการให้คำปรึกษาส่วนตัว ตลอดจนโปรแกรมผู้บริหารและการประชุม ลูกค้าของบริษัทประกอบด้วยองค์กรขนาดใหญ่ หน่วยงานภาครัฐ บริษัทเทคโนโลยี และบริษัทการลงทุน
แหล่งที่มาจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Gartner
10 เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024
ติดตามไปกับเรา และเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ว่าปี 2024 จะมีเทรนด์อะไรบ้างที่น่าสนใจ และสามารถนำไปใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรSหรือธุรกิจของคุณได้อย่างไร เริ่มกันเลยครับ
1. Democratized Generative AI
Generative AI จะทำให้ทุกคนเข้าถึง AI ได้มากขึ้นด้วยโมเดลที่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลมากมาย, การประมวลผลบนคลาวด์, และซอร์ฟแวร์โอเพ่นซอร์ส Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2026 การใช้งาน GenAI ในธุรกิจจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% จากน้อยกว่า 5% ในต้นปี 2023 ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลและให้ข้อมูลที่เข้าใจง่ายด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ AI
2. AI TRiSM: AI Trust, Risk, and Security Management
การเข้าถึง AI ที่กว้างขึ้นทำให้ความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยง และความปลอดภัยของ AI (AI TRiSM) มีความสำคัญ Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2026 องค์กรจะใช้มาตรฐาน AI TRiSM เพื่อการใช้งาน AI ที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ AI TRiSM จะช่วยให้ AI ตัดสินใจได้ฉลาดขึ้นและกำจัดข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้ถึง 80% ผ่าน ModelOps, การปกป้องข้อมูลเชิงรุก, AI-Specific Security, การตรวจสอบโมเดล AI, และการควบคุมความเสี่ยงของอินพุตและเอาต์พุต
3. AI-Augmented Development
การใช้ AI ช่วยวิศวกรซอฟต์แวร์ในการออกแบบ เขียนโค้ด และทดสอบแอปพลิเคชัน ช่วยให้วิศวกรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดเวลาที่ใช้ในการเขียนโค้ด เพื่อมุ่งเน้นการสร้างแอปพลิเคชันสำคัญ
4. Intelligent Applications
Gartner กำหนดว่าเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้และปรับตัวได้เองเพื่อการตอบสนองที่ถูกต้องโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ ใช้ AI เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง และข้อมูลเชื่อมต่อ จากการสำรวจของ Gartner ในปี 2023, 26% ของ CEO และผู้บริหารเชื่อว่า AI จะมีผลกระทบมากที่สุดต่ออุตสาหกรรมในอีกสามปีข้างหน้า
5. Augmented-Connected Workforce (ACWF)
กลยุทธ์ที่ใช้เพิ่มมูลค่าแรงงานคนโดยใช้ Intelligent Applications และการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน เพื่อให้คำแนะนำในการพัฒนาทักษะของพวกเขา คาดว่าภายในปี 2027, 25% ของ CIO จะใช้ ACWF เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่ดีขึ้นในเวลาน้อยลง
6. Continuous Threat Exposure Management (CTEM)
CTEM ช่วยให้องค์กรประเมินและจัดการการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยการประเมินให้สอดคล้องกับภัยคุกคามและโครงการทางธุรกิจ คาดว่าองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ CTEM ภายในปี 2026 จะลดความเสียหายจากการละเมิดได้ถึงสองในสาม
7. Machine Customers (Custobots)
Custobots ลูกค้าที่ไม่ใช่มนุษย์ มีความสามารถในการเจรจาและซื้อสินค้าอัตโนมัติ คาดว่าภายในปี 2030 จะสร้างรายได้หลายล้านล้านดอลลาร์และอาจแซงหน้า E-commerce
8. Sustainable Technology
Sustainable Technology คือการใช้โซลูชันดิจิทัลเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยมุ่งเน้นให้การใช้งานด้าน IT มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
9. Platform Engineering
การพัฒนา Internal Platform Product ให้ตอบโจทย์การใช้งานแบบ self-service เพื่อแก้ปัญหาของ Developer เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเร่งสปีดการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ
10. Industry Cloud Platforms (ICPs)
ภายในปี 2027 คาดว่า 70% ขององค์กรจะใช้เทคโนโลยี cloud ในอุตสาหกรรมเพื่อเร่งการเติบโตขององค์กร โดยการรวมบริการ SaaS, PaaS และ IaaS เข้าด้วยกัน และปรับแต่งระบบ cloud ให้เหมาะกับธุรกิจต่าง ๆ
สรุป ทำไมธุรกิจต้องสนใจเทรนด์เทคโนโลยี
เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ทั้ง 10 ข้อของปีนี้เน้นย้ำถึงแนวโน้มที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและโอกาสสำคัญสำหรับ CIO และผู้นำด้านไอทีอื่นๆ ภายใน 36 เดือน หรือ 3 ปีต่อจากนี้
Bart Willemsen รองประธานนักวิเคราะห์ของ Gartner กล่าวว่า เมื่อเกิดการหยุดชะงักทางเทคโนโลยีและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมและดำเนินการด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน ผู้นำด้านไอทีอยู่ในจุดที่ได้เปรียบเพราะมีโอกาสในการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จท่ามกลางความไม่แน่นอนและความท้าทายเหล่านี้
นอกจากนี้ Chris Howard รองประธานนักวิเคราะห์และหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Gartner ยังเสริมว่า การที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้นำและผู้บริหารต้องพิจารณาว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะส่งผลต่อบริษัทอย่างไรบ้าง เช่น generative AI และ AI ประเภทอื่นๆ ที่แม้จะสร้างประโยชน์มากมายให้ธุรกิจ แต่ก็ต้องใช้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงทั้งข้อดีและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ธุรกิจที่สนใจและติดตามเทรนด์เทคโนโลยีจะสามารถ
เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง: การรู้จักและเข้าใจเทรนด์เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และปรับตัวให้ทันสมัย
สร้างโอกาสใหม่ๆ: เทคโนโลยีใหม่ๆ มักจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ เช่น การใช้ AI เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตหรือการบริการ
เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย: เทคโนโลยีสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รักษาความสามารถในการแข่งขัน: ธุรกิจที่ไม่ตามเทรนด์เทคโนโลยีอาจตกเป็นรองคู่แข่ง การตามทันเทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจคงความสามารถในการแข่งขัน
พัฒนาความยืดหยุ่นและความปลอดภัย: เทคโนโลยีเช่น AI TRiSM ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยง ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับปัญหาต่างๆ
ดังนั้น การที่ธุรกิจสนใจเทรนด์เทคโนโลยีจึงไม่เพียงแค่ช่วยในการพัฒนาธุรกิจ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในอนาคตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว