หลายๆ คน อาจจะเคยคิดว่าการมีรอยสัก มันเท่ห์ มันสวย อยากสัก แต่พอนานๆ ไปเข้า ก็คิดกลับกัน อยากเอารอยสักออกแล้ว มันไม่ดี มันติดตัว ไม่ชอบลายที่สักแล้ว วันนี้บทความของเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ว่าจริงๆ แล้ว การลบรอยสักด้วยวิธีนี้นั้น มันสามารถลบได้จริงหรือไม่ มาติดตามกันครับเพื่อนๆ

รอยสัก เป็นศิลปะบนผิวหนังที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการสักเพื่อความสวยงาม แสดงความเชื่อ หรือบันทึกความทรงจำ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจมีเหตุผลที่ต้องการลบรอยสักออก เช่น เปลี่ยนแปลงรสนิยม ต้องการสมัครงานที่ไม่อนุญาตให้มีรอยสัก หรือรู้สึกว่าไม่ต้องการมีลวดลายบนร่างกายอีกต่อไป วิธีลบรอยสักที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้รอยสักจางลง หรือในบางกรณีอาจลบออกจนหมด แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา

เลเซอร์ลบรอยสักทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของเลเซอร์ลบรอยสักคือ ใช้พลังงานเลเซอร์ยิงเข้าไปที่เม็ดสีของหมึกสัก ซึ่งพลังงานนี้จะช่วย ทำให้เม็ดสีแตกตัวออกเป็นอนุภาคขนาดเล็ก จากนั้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะค่อยๆ กำจัดอนุภาคเหล่านั้นออกไปผ่านระบบไหลเวียนโลหิต

เลเซอร์ที่นิยมใช้ลบรอยสักมีหลายประเภท เช่น

  • Q-Switched Nd:YAG Laser – เหมาะสำหรับรอยสักสีดำและสีเข้ม
  • PicoSure Laser – สามารถลบรอยสักได้หลายเฉดสี และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นเก่า
  • Alexandrite Laser – ใช้สำหรับรอยสักสีเขียวและฟ้า ซึ่งเป็นสีที่ลบยาก

ใครที่สงสัยว่าลบรอยสักด้วยเลเซอร์ สามารถลบออกได้จริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอะไรบ้างมาดูกัน

  • สีของรอยสัก – รอยสักสีดำและสีเข้มลบออกได้ง่ายกว่า ขณะที่สีอ่อน เช่น สีเหลืองหรือสีฟ้าอ่อน อาจต้องใช้เวลานานขึ้น
  • ความลึกของหมึกที่ฝังใต้ผิวหนัง – หากหมึกถูกฝังลึกมาก อาจต้องใช้หลายครั้งกว่าร่างกายจะสามารถกำจัดเม็ดสีออกไปได้
  • ขนาดของรอยสัก – รอยสักขนาดเล็กมักจะลบได้ง่ายกว่ารอยสักขนาดใหญ่
  • ระยะเวลาที่สักมาแล้ว – รอยสักที่มีอายุมากกว่า 10 ปี อาจลบออกง่ายกว่า เพราะเม็ดสีเริ่มเสื่อมสภาพ
  • สภาพผิวของแต่ละคน – ผิวที่ไวต่อแสงอาจต้องได้รับการดูแลพิเศษหลังการรักษา
  • ประเภทของหมึกที่ใช้ – หมึกที่มีคุณภาพสูงและเข้มข้น อาจใช้เวลาลบนานกว่าหมึกทั่วไป

ต้องใช้เวลากี่ครั้งกว่ารอยสักจะหายหมด?

จำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษาขึ้นอยู่กับ ขนาด สี และลักษณะของรอยสัก โดยทั่วไปอาจใช้เวลาประมาณ 5-15 ครั้ง แต่ละรอบควรเว้นระยะห่างกันประมาณ 6-8 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดเม็ดสีออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับรอยสักที่มีสีเข้ม หรือใช้หมึกที่ลบออกยาก อาจต้องใช้เวลานานขึ้นหรืออาจไม่สามารถลบออกได้หมด 100%

อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากลบรอยสักด้วยเลเซอร์

หลังจากทำเลเซอร์ลบรอยสัก อาจมีอาการข้างเคียง เช่น

  • รอยแดง บวม และอาการคัน – เป็นปฏิกิริยาปกติของผิวที่ตอบสนองต่อเลเซอร์
  • แผลพุพองหรือผิวลอก – ในบางกรณีอาจเกิดแผลพุพองเล็กน้อย แต่สามารถหายได้เอง
  • ผิวบริเวณที่ลบอาจดูจางหรือคล้ำลง – ผิวหนังบางคนอาจเกิดรอยด่างขาวหรือรอยคล้ำหลังการรักษา
  • อาจมีรอยแผลเป็น – หากดูแลไม่ถูกต้อง หรือทำเลเซอร์แรงเกินไป อาจเกิดแผลเป็นได้

โดยรวมแล้ว การลบรอยสักด้วยเลเซอร์สามารถทำให้จางลงหรือหายหมดได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ช่วยลบรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำให้รอยสักจางลงจนถึงหายหมดได้ในบางกรณี อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการลบรอยสักขึ้นอยู่กับสี ขนาด ความลึกของหมึก และสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากต้องการลบรอยสัก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินความเป็นไปได้และเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับรอยสักของตนเองมากที่สุด สำหรับใครที่สนใจลบรอยสักแบบจริงจัง แนะนำที่นี้เลย http://nitithamclinic.com/laser-tattoo-removal-nitithamclinic/